Yorkshire Road Trip
dtac Data Roaming x Gogetlost
2 ชั่วโมงโดยรถไฟ กับระยะทาง 200 กว่าไมล์ทางตอนเหนือของ London Roadtrip ของเราเริ่มต้นอีกครั้งในแคว้น Yorkshire ทางตอนกลางของเกาะอังกฤษ
ไฮไลท์ของ Road Trip ครั้งนี้ คือเมืองเก่าแก่อย่าง York ที่เป็นต้นแบบของตรอก Diagon ใน Harry Potter
และเมืองเล็กเมืองน้อยริมทะเลสุดแสนโรแมนติก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบฉบับ British Coastal Town
.
Roadtrip ครั้งนี้ ต้องขอบคุณ Data Roaming จาก dtac ที่ทำให้การเดินทางของเราราบรื่น
เปิด Map ดูทางได้อย่างไม่ติดขัด และ Connect กับโลกออนไลน์ได้ตลอดทั้งทริปโดยไม่ต้องเปลี่ยนซิมไปมาให้วุ่นวายใจ
ถ้าใครมีแพลนเดินทางไปต่างประเทศ ลองเช็ค Package จาก dtac ดู เพราะครอบคลุมกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กับโปรดีๆ ที่ทำให้เราได้ Stay Connect ตลอดการเดินทาง
.
ส่วนใครสนใจ Road Trip ไป Yorkshire
เราสรุปมาให้เป็น 5 Destinations เด็ดๆ ที่แค่เปิดแมปตาม ก็ขับรถเที่ยวกันได้อย่างง่ายดาย ได้แก่
– York
– Flamborough
– Scarborough
– Robin Hood’s Bay
– Whitby
ถ้าพร้อมกันแล้ว ลองฝึกพูดภาษาอังกฤษสำเนียง British Accen
แล้วออกเดินทางไปพร้อมกันเลย
.
#dtacRoaming
#gogetlostYorkshire
Road Trip ครั้งนี้ ใช้เวลา 3 วัน 2 คืน
เริ่มต้นกันที่ York เมืองหลวงของแคว้น Yorkshire
ก่อนที่เราจะขับกันไปต่อที่ Coastal Route ริมฝั่งทะเลทางตะวันออก
.
เราแวะกันที่ Flamborough ที่เป็นหน้าผาริมทะเล
แล้วไปต่อกันที่ Scarborough เมืองท่าเล็กๆ ที่เราเลือกที่จะนอนค้างคืน สำหรับคืนแรก
.
วันที่สอง เราขับต่อไปที่ Robin Hood’s Bay หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลที่สวยเหมือนภาพวาด แถมยังชื่อเหมือนฮีโร่ในนิทานสมัยเด็กๆ ส่วนช่วงบ่ายเราขับไปต่อที่ Whitby เมืองตากอากาศชื่อดัง ทางตอนกลางของเกาะอังกฤษ
.
คืนที่สอง เราค้างกันที่ Whitby เพื่อที่จะได้ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองริมทะเลแห่งนี้ได้เต็มที่
.
เป็นอันจบทริป Yorkshire ของเราแบบสบายๆ ในช่วงสายของอีกวัน
#dtacRoaming
.
ถ้าใครเป็นลูกค้า dtac เหมือนกับเรา
เดี๋ยวนี้ dtac เค้ามี Package สำหรับคนชอบเดินทาง
เป็น Non-Stop Data Roaming
แพ็กเกจเน็ตไม่จำกัด แชท แชร์ ได้ไม่มีสะดุด ครอบคลุมกว่า 70 ประเทศด้วยนะ
ก่อนเดินทางแค่โทรหา Call Center ติดต่อขอเปิด Roaming แค่นี้ก็เรียบร้อย ไม่ต้องยุ่งยากไปหาซื้อซิมที่ต่างประเทศ ลูกค้าดีแทค คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่
http://bit.ly/IR_GoGetLost ได้เลย
อย่างเราไปอังกฤษรอบนี้ ก็ใช้ Package นี้เหมือนกัน
ราคาอยู่ที่ 450 บาทต่อวัน แค่เปิดเครื่องตามปกติ ซิมการ์ดก็จะจับสัญญาณของประเทศนั้นๆ ทันที ไม่ต้องคอยเปลี่ยนซิมเข้าออกให้วุ่นวาย สัญญาณดี ใช้เน็ตลื่นไม่สะดุด เพราะเป็นเครือข่ายชั้นนำของแต่ละประเทศเลยทีเดียว ถ้าวันไหนไม่อยากใช้ก็แค่ปิด Roaming เพราะเค้าคิดค่าบริการตามจริงเฉพาะวันที่เราใช้งานเท่านั้น สะดวกมากก แถมยังใช้เน็ตได้ไม่อั้น ไม่ต้องกลัวหลงทางหรือขาดการติดต่อใดๆ จากโลกออนไลน์ อย่างแน่นอน 🙂
York
The county town of the historic county of Yorkshire
หลายคนน่าจะคุ้นหูกับ York กันอยู่แล้ว
เพราะ York เป็นเมืองเก่าแก่ เมืองท่องเที่ยว เมืองดังท็อปฮิต อันดับต้นๆ ของอังกฤษ
.
บ้านเมืองที่นี่มีความเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังฝรั่งโบราณ
ทุกอย่างมีความน้อยนิด ความน่ารัก ความขลัง มองไปทางไหนก็สวยไปหมด
.
ส่วนจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาว British และทุกคนจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือน York
นอกจาก York Minister ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางเมืองแล้ว
ก็คงจะหนีไม่พ้น Diagon Alley หรือตรอกไดแอกอน ใน Harry Potter ที่เค้ามาถ่ายทำกันจริงๆ ที่ York นี่เอง
เราใช้เวลาอยู่ที่ York ครึ่งวัน เดินเล่นจนทั่วเมือง
แวะจิบชา Bettys Cafe อันโด่งดัง
แล้วอย่าลืมแวะตรอกไดแอกอนไปซื้อไม้กายสิทธิ์
ที่ Official Shop ของ Harry Potter ที่เปิดขายอยู่ในตรอกไดแอกอนแห่งนี้ด้วยนะ
.
เราชอบความน่ารักของ York มาก
ถือเป็นอีกเมืองนึงของอังกฤษที่ห้ามพลาดเลยจริงๆ
Flamborough
one of the Yorkshire coast’s most dramatic locations
ขับรถออกมาจาก York ประมาณชั่วโมงนิดๆ
เรามาแวะกันที่ Flamborough ที่เป็นหน้าผาหินสีขาวริมทะเล
.
Flamborough เป็นสถานที่ท็อปฮิตสำหรับคนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะนอกจากวิวริมทะเลที่สวยสุดๆ แล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำเยอะแยะไปหมด จะเดิน hiking เลาะไปตามหน้าผาก็ได้ หรือจะไปพายเรือแคนนูก็มี แล้วยังเป็นจุดชมนกชื่อดังของอังกฤษอีกด้วย
.
ส่วนเรา ด้วยความที่มีเวลาไม่เยอะ เลยได้แค่นั่งเล่น ชมนก ชมไม้ ชมทะเล ตรงจุดชมวิว Flamborough Head ที่มี Light House ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ริมทะเล
.
แต่แค่นี้ก็สวยมากแล้ว สวยจนต้องกด Shutter รัวๆ แบบไม่ยั้ง
Scarborough
Historically part of Yorkshire
and the largest holiday resort on the coast
ขับรถเลาะชายฝั่งจาก Flamborough มาแค่ประมาณ 40 นาที เราก็มาถึง Scarborough ถ้าทางตอนใต้ของอังกฤษ คนไป Brighton กัน ทางตอนกลางก็ต้อง Scarborough เนี่ยแหละ
.
Scarborough คือเมืองตากอากาศขึ้นชื่อของอังกฤษ
อารมณ์น่าจะคล้ายๆ หัวหิน บ้านเรา ประมาณนั้น
ที่นี่เป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และผันตัวมาเป็นเมือง Resort ที่มีทั้งโรงแรมชื่อดัง ร้านอาหาร ผับ บาร์ และ Casino เรียงตัวกันเป็นแนวยาว ขนานไปกับชายหาด
.
เรามาที่เมืองนี้ในหน้าหนาว เลยไม่ได้เห็นความคึกคักของเมืองตากอากาศแห่งนี้มากนัก แต่จากที่ได้เดินเล่น ได้รู้จักเมืองนี้ ก็พอจะเห็นภาพความครึกครื้น และความสนุกสนานในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี
.
ถ้ามีโอกาส หวังว่าจะได้เจอใหม่กันช่วง summer นะ Scarborough
Robin Hood’s Bay
A picturesque old fishing village on the Heritage Coast of
North York Moors
หมู่บ้านนี้ ทำให้เราเชื่อว่า “สวยเหมือนหลุดออกมาจากโปสการ์ด” นั้น มีอยู่จริง
.
ทางเข้าของหมู่บ้าน คือลานจอดรถที่อยู่บนเนินสูง และถนนที่ลาดยาวลงไปในหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ริมทะเล
เราก้าวเท้าลงจากรถ พร้อมกับตาที่ลุกวาว เพราะภาพที่เราเห็นตรงหน้า เหมือนหลุดออกมาจากโปสการ์ดจริงๆ
.
ที่นี่ มีตำนานเล่าต่อกันมาว่า Robin Hood ในนิยายอังกฤษ เคยมาเยือนที่นี่จริงๆ เลยเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านสุดน่ารัก และอ่าวริมทะเลก็เลยถูกเรียกในชื่อเดียวกัน
จากที่จอดรถ เราเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ผ่านร้านขายของ คาเฟ่ และลำธารเล็กๆ ที่ไหลลงไปสู่ทะเล ทุกอย่างดูน่ารักไปหมด จนอดหยุดดู หยุดถ่ายรูปตลอดทางแทบไม่ได้
.
เดินไปจนสุดหมู่บ้าน ก็จะเจอกับทางออกสู่ทะเล ที่มีทางเดินเชื่อมไปยังหาดที่มีชื่อว่า Robin Hood’s Bay
ตรงริมทะเล มีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้าน และการประมงด้วย
.
เราใช้เวลาเดินเล่น ถ่ายรูป จิบโกโก้ร้อนในคาเฟ่
รู้ตัวอีกทีก็ปาไป 3 ชั่วโมงแล้ว
หลงรักหมู่บ้านนี้มากจริงๆ
Whitby
A seaside town, situated on the east coast of Yorkshire
เมืองสุดท้ายของ Road Trip ครั้งนี้
และยังเป็นเมืองโปรดที่สุดของเราในทริปนี้ด้วย ถือว่าเป็นการปิดท้ายที่ Perfect มาก
.
Whitby คืออีกหนึ่งเมืองริมทะเลชื่อดังของอังกฤษ
และเป็นเมืองที่ดึงดูดให้คนมาเที่ยวเยอะพอสมควร แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนท้องถิ่นมากกว่า ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่าไหร่ สำหรับเรา เราว่า Whitby คือ Hidden Gems สุดๆ ก่อนมายังไม่ค่อยได้ยินใครพูดถึงเท่าไหร่ แต่พอมาเห็นแล้วประทับใจมากกก
เมืองนี้ตั้งอยู่ติดกับเนินเขา และอยู่ติดทะเลในเวลาเดียวกัน
ถือเป็นโลเคชั่นชั้นดี ที่ทำให้เมืองนี้ Perfect ไปซะทุกอย่าง
เราเริ่มจากการขับรถขึ้นไปบนเนินเขา ที่มีซากโบสถ์โบราณ Whitby Abbey ตั้งตระหง่านเป็น Landmark จากตรงนั้น เราจะเห็นเมือง Whitby ได้ทั้งเมืองจากมุมสูง
เห็นหลังคาสีน้ำตาลสลับซ้อนกันหลากหลายเฉดสี
เห็นเรือที่จอดเทียบอยู่ริมแม่น้ำ
เห็นคนเดินพลุกพล่านไปมา
เป็นจุดชมวิวที่สวยมากกก ใครไป Whitby คือห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
จากตรงนั้น มีทางเดินเล็กๆ ไต่เขาลงมาสู่ตัวเมือง Whitby ด้านล่าง ก็ถือว่าเป็นเมืองที่ไม่เล็กเลยนะ มีร้านรวงขายของเต็มไปหมด
ร้านอาหาร คาเฟ่ ก็เยอะมากจริงๆ มากจนเราแทบจะเลือกไม่ถูกเลยว่าจะกินร้านอะไรดี
แถมยังมี Fish and Chips ขายทั่วทั้งเมือง ให้สามารถซื้อแล้วมานั่งหย่อนขาริมน้ำ กินบรรยากาศกันได้อีก
แต่ด้วยความที่อากาศหนาวมาก เราเลยเลือกเข้า Seafood Restaurant กินแบบอุ่นๆ ดีกว่า
ไว้ถ้ามีโอกาสได้มาหน้าร้อน ค่อยมานั่งตากลมเกร๋ๆ
.
เราใช้เวลาที่ Whitby ทั้งหมดครึ่งวัน
เดินเล่น ถ่ายรูป ดูของกุ๊กกิ๊กตามร้านข้างทาง
บรรยากาศดีจนแทบไม่อยากกลับ
.
ถ้าใครมีโอกาส อยากให้ได้มาจริงๆ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ทำเรานึกถึงทุกครั้งที่กลับมาอังกฤษ
จบไปแล้วกับ Yorkshire Road Trip ในครั้งนี้
เป็นทริปสั้นๆ และเป็นทริปที่อาจจะไม่ได้ popular เท่าไหร่สำหรับคนไทย แต่เราชอบในความชิวของเมืองริมทะเล
แล้วก็ชอบในความใหม่ แบบที่ลง instagram แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอน :p
.
ถ้าใครมาอังกฤษนานๆ หรือมาเรียนต่อที่อังกฤษ
ลองหาเวลามาเที่ยวแถวนี้ดู
รับรองว่าได้รับความประทับใจกลับไปเต็มๆ แบบเราชัวร์
.
#dtacRoaming
#gogetlostUK
1 comment
Comments are closed.