Bike Friendly Cities
เมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานที่นักปั่นต้องไปปักหมุด
เคยคิดว่าถ้าบ้านเรามีเลนจักรยานเยอะๆ ก็คงดีเหมือนกันได้แต่หวังว่าในอนาคตคงจะมีการบริหารจัดการที่ดีเป็นมิตรกับคนขี่จักรยานมากขึ้น เพราะถ้ามีถนนที่ดี การออกแบบที่ใส่ใจทุกคนและใช้งบประมาณให้เป็นประโยชน์ บ้านเราอาจจะเจอกับภาวะรถติดน้อยลงและอากาศดีกว่านี้ก็ได้
วันนี้เลยขอหยิบตัวอย่างเมืองที่เป็นมิตรต่อนักปั่นมาฝากกัน ว่าแต่ละประเทศเขามีวิธีการบริหารจัดการกับประชาชนที่ใช้เจ้าสองล้อเป็นพาหนะคู่ใจยังไงกันบ้าง แต่ละประเทศเขาก็มีวิธีคิดแตกต่างกันไป เช่น บางเมืองก็มีดอกยางกันลื่นเวลาขี่ในฤดูหนาว โครงการขยายลานจอดจักรยาน ทำป้ายสัญญาณไฟในระดับสายตาของคนขี่ และไม่ลืมที่จะใส่ใจความปลอดภัยด้วย.เมืองที่คนเดินได้สะดวกไม่ต้องกลัวสะดุด ปั่นจักรยานได้อย่างปลอดภัย นี่มันน่าอิจฉาจริงๆ น้า ถ้าวันไหนอากาศดีคงได้เดินเล่นหรือปั่นจักรยานชมวิวเมืองกันบ้าง ชีวิตคงจะโรแมนติกขึ้นอีกหนึ่งระดับ
ในบ้านเราอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่หวังว่ามันจะดีขึ้นเรื่อยๆตอนนี้ก็คงต้องศึกษาไอเดียจากต่างประเทศกันก่อน ตามมาอ่านกันได้ในโพสต์นี้เลย
Sourcehttps://copenhagenizeindex.eu/
• Amsterdam, Netherlands
อัมสเตอร์ดัมเป็นสวรรค์ของนักปั่นจักรยานเลยก็ว่าได้ ที่เมืองนี้เราจะเห็นว่าคนทุกเพศ ทุกวัยออกมาปั่นจักรยานกันอยู่เต็มท้องถนนไปหมด ด้วยจำนวนคนที่เริ่มหันมาใช้จักรยานมากขึ้นแทนรถยนต์ ทำให้ภาครัฐคิดนโยบายประจำปี 2022 มุ่งเน้นไปที่ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับจำนวนจักรยานที่จะมากขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น
▪︎ เพิ่มจุดจอดจักรยาน
▪︎ สร้างเส้นทางหลวงใหม่ๆ สำหรับช่วงเวลาเร่งด่วน คนจะได้มีหลายเส้นทางให้เลือกไปมากขึ้น
▪︎ ขยายเส้นทางจักรยานที่มีอยู่ให้กว้างขึ้นเป็น 2.5 เมตร
▪︎ ออกแบบทางแยกหลักใหม่เพื่อให้ปั่นจักรยานแล้วปลอดภัย
ภายในปี 2025 ทางภาครัฐจะเปลี่ยนที่จอดรถยนต์เป็นที่จอดจักรยานแทน ห้ามไม่ให้รถมอเตอร์ไซค์มาขี่ในเลนจักรยาน และไม่ลืมที่จะปลูกต้นไม้ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมริมถนนให้ดูสวยงามน่ามอง
ได้แต่อิจฉาคนในอันสเตอร์ดัมเหลือเกินที่มีรัฐบาลที่ใส่ใจขนาดนี้ ได้แต่หวังว่าบ้านเราจะมีเลนจักรยานที่สะดวก ปลอดภัยมากขึ้นในอนาคตเนอะ
• Tokyo, Japan
เวลาไปญี่ปุ่น หลายคนน่าจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นเขาชอบปั่นจักรยานกัน ไม่ว่าจะเด็กหรือคนแก่ก็เป็นนักปั่นตัวยงกันแทบทั้งนั้น แต่แม้จะมีวัฒนธรรมการปั่นจักรยานที่ฝังรากลึกในโตเกียว แต่การก้าวไปสู่เมืองที่เป็นมิตรต่อจักรยานอย่างแท้จริงจะต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยส่งเสริมให้คนปั่นจักรยานได้ระยะทางไกลขึ้น
ส่วนใหญ่เราจะเห็นคนญี่ปุ่นปั่นจักรยานกันเยอะก็จริง แต่พวกเขามักจะปั่นจักรยานเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าต่อกันมากกว่า ปัจจุบันทางภาครัฐเลยมีนโยบายเพิ่มลานจอดจักรยาน และกำลังพยายามขยายเส้นทาง รวมถึงเลนจักรยานให้มากขึ้น เพื่อคนจะได้ใช้จักรยานคันเดียวไปถึงที่หมายได้เลยและลดความแออัดในรถไฟฟ้าด้วยนั่นเอง
• Antwerp, Belgium
แอนต์เวิร์ป เป็นเมืองในเบลเยี่ยม ซึ่งในช่วงสองปีที่ผ่านมาแอนต์เวิร์ปได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในฐานะเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน เห็นได้ชัดจากดัชนีปี 2019 จากโคเปนฮาเจไนซ์ อินเด็กซ์ ที่ได้อันดับ 4 คะแนนรวม 73.2%
ล่าสุดทางภาครัฐปรับปรุงสัญญาญไฟจราจรบริเวณสี่แยก และในอนาคตคาดกว่าจะจำกัดความเร็ว 30 กิโลเมตร / ชั่วโมง ใน 95% ของถนนทุกสายที่มีคนสัญจรด้วยจักรยานอยู่เยอะ เนื่องจากรถบรรทุกหรือรถยนต์ได้คร่าชีวิตนักปั่นบนท้องถนนอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนั้นได้ขยายที่จอดจักรยานในสถานีรถไฟ และกำลังดำเนินการขยายทางหลวงไปยังภูมิภาคอื่นๆ มากขึ้น
และเร็วๆ นี้เมืองแอนต์เวิร์ปได้เปลี่ยนแปลงไปสู่เมืองแห่งศตวรรษที่ 21 แล้ว ด้วยการสร้างเส้นทางจักรยานตามแนวท่าเรือและสร้างสะพานคนเดินได้สำเร็จ ด้วยเส้นทางที่สะดวกและปลอดภัยมากขึ้นนี้เองทำให้ชาวเมืองเริ่มหันมาเดินและขี่จักรยานกันมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
• Copenhagen, Denmark
โคเปนฮาเจไนซ์ อินเด็กซ์ (Copenhagenize Index) ดัชนีจัดอันดับเมืองที่เป็นมิตรต่อจักรยาน ปี 2019 ระบุว่าเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อนักปั่นมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนรวมกว่า 90.2%
ทางรัฐบาลโคเปนเฮเกน ระบุว่าการเพิ่มเลนจักรยานช่วยให้คนหันมาขี่จักรยานได้จำนวนหนึ่ง แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่านั้นคือความปลอดภัยมากกว่า ทางรัฐเลยปรับปรุงถนนให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการ เริ่มจากทาสีฟ้าบนถนนเพื่อให้แยกได้ชัดเจนมากขึ้นว่าเป็นเลนจักรยานและช่วยลดอุบัติเหตุ เพิ่มไฟจราจรให้อยู่ในระดับสายตาของนักปั่น และยังอำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ไม่มีปั่นจักรยานด้วยบริการยืมจักรยานฟรี และจุดยืม-คืนที่สะดวกอยู่รอบเมือง ใครใกล้ตรงไหนก็ไปยืมได้เลยที่นั่น
นอกจากนั้นรัฐยังให้งบเพิ่มสร้าง 8 เส้นทางใหม่ สำหรับนักปั่นโดยเฉพาะอีกด้วย เรียกว่ารัฐช่วยส่งเสริมให้คนออกมาปั่นจักรยานมากขึ้น ใครที่เป็นสายนักปั่นต้องชอบเมืองนี้แน่นอน : )
• Utrecht, Netherlands
ยูเทรกต์ เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองก็จะโดยสารโดยการปั่นจักรยานเป็นหลัก เช่นเดียวกับเมืองในเนเธอร์แลนด์หลายแห่ง
ภาครัฐที่ดูแลเมืองนี้ให้ความสำคัญกับการขี่จักรยานเป็นอย่างมาก โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มการใช้จักรยานเป็นสองเท่าภายในปี 2030 และคาดว่าจะทำลานจอดจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
ไม่ใช่แค่ภาครัฐอย่างเดียวที่ออกมาอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนนะ ภาคเอกชนเขาก็ลงทุนสร้างที่จอดจักรยานกันด้วย ซึ่งลานนึงสามารถจอดได้ถึง 11,000 คันเลย และในอนาคตคาดว่าจะทำให้จอดได้ถึง 33,000 คันด้วย
ยิ่งที่จอดจักรยานมีเยอะเท่าไหร่ คนก็ยิ่งรู้สึกว่าการปั่นจักรยานนั้นไม่ใช่ภาระที่ต้องมาคอยหาที่จอด ต้องมาคอยระวังว่ากลัวใครจะขโมย ก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมให้คนออกมาปั่นจักรยานแทนการใช้รถยนต์มากขึ้นจริงๆ
• Strasbourg, France
หลายคนน่าจะไม่คุ้นกับ สตราสบูร์ก เมืองในประเทศฝรั่งเศสกันเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเมืองนี้เป็นเมืองแรกๆ เลยทีเริ่มผลักดันการสัญจรด้วยจักรยานในฝรั่งเศส
ส่วนใหญ่ประชากรในเมืองจะขี่จักรยานไปทำงาน และมักจะเห็นคนงานในห้างร้าน บริษัทต่างๆ ใช้จักรยานในการขนสินค้าและของใช้ในชีวิตประจำวันกันอยู่บ่อยๆ
สตราสบูร์กขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับจักรยานมาอย่างยาวนาน และปัจจุบันก็ยังคงรักษาอันดับต้นๆ เอาไว้ได้ ด้วยการสร้างเลนจักรยานรอบเมืองและรอบสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ภายหลังภาครัฐอยากส่งเสริมให้คนออกมาใช้จักรยานมากขึ้น เลยวางแผนที่จะเพิ่มเส้นทางหลวงไปยังแถบชานเมืองโดยรอบด้วย
ที่นี่มีทางปั่นจักรยานกว่า 300 ไมล์และมีบริการยืม-คืนที่สะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นจักรยานเดี่ยวๆ จักรยานที่มีตะกร้าสำหรับใส่ของ และมีที่นั่งสำหรับเด็กด้วย ถ้าใครมาเที่ยวที่เมืองนี้แนะนำให้ลองมาปั่นจักรยานเล่นรอบเมืองกันดู คิดว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าลองมากก
• Helsinki, Finland
เฮลซิงกิทำให้เรารู้ว่าแม้จะเมีฤดูหนาวที่หนาวจัด แต่ก็สามารถสร้างเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานได้
เมื่อหลายปีที่แล้วเฮลซิงกิไม่เคยติดอันดับเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานมาก่อนเลย แต่ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา กราฟคนใช้จักรยานเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะที่นี่เขามีโครงการแบ่งปันจักรยานในท้องถิ่น โดยมีจักรยานให้บริการเกือบ 3,500 คัน ซึ่งผู้ใช้งานจริงให้ความเห็นกันว่า รู้สึกปลอดภัยในการขี่จักรยานในเมือง และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็มีโครงการแบ่งปันจักรยานสำหรับใช้ขนส่งสินค้าในท้องถิ่นสำหรับชาวบ้าน ห้างร้าน และบริษัทต่างๆ นอกจากนั้นตอนนี้ก็สามารถนำจักรยานขึ้นรถไฟฟรีได้แล้วด้วย
การที่เฮลซิงกิมีนโยบายที่เป็นมิตรกับคนปั่นจักรยานมากขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มหันมาขี่จักรยานมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย ตอนนี้อาจจะยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่ก็กำลังวางแผนพัฒนานโยบายที่จะเป็นมิตรกับจักรยานมากขึ้นเรื่อยๆ เลย
• Vienna, Austria
เวียนนากำลังพัฒนาเมืองให้เป็นมิตรกับจักรยานมากขึ้นทุกๆ ปี เห็นได้จากในปี 2019 ได้คะแนนรวมถึง 60.7% และกราฟคนขี่จักรยานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ด้วยนโยบายและแคมเปญสุดสร้างสรรค์
เวียนนาใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ด้วยแคมเปญ warumfährstDUnicht? ( #whydontYOUcycle? ) ที่สื่อถึงไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แต่งตัวแบบไหนก็ออกมาขี่จักรยานได้ จะเห็นคนออสเตรียเขาติดแฮชแท็กนี้พร้อมโพสต์รูปตัวเองกับจักรยานในทวิตเตอร์กันเพียบเลย
นอกจากนั้นยังออกนโยบายให้ประชาชนสามารถเช่าจักรยานสำหรับขนสินค้าฟรี
และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ซื้อจักรยานมากกว่า 300 คัน รวมถึงขยายลานจอดจักรยานให้สามารถจอดได้ 5,000 คัน
เวียนนาเริ่มเอางบมาใช้กับโครงสร้างพื้นฐานและใส่ใจกับคนที่ขี่จักรยานมากขึ้น เรียกว่าเป็น Movement ที่น่าสนใจมากๆ
• Oslo, Norway
ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องยานยนต์ไฟฟ้ามานานแล้ว ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ทางภาครัฐเริ่มผลักดันและสนับสนุนจักรยานอย่างจริงจังมากขึ้น เราเลยจะเห็นว่าออสโลเป็นดาวรุ่ง พุ่งแรงของเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน ด้วยคะแนนรวมถึง 62.5% เลยทีเดียว
ออสโล เป็นตัวอย่างของเมืองที่แม้จะอากาศหนาวเย็นตลอดปี มีหิมะตกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็สามารถจริงจังกับการใช้จักรยานได้ โดยไม่กลัวว่าถ้าคนออกมาปั่นแล้วจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะเขามีการออกแบบเลนจักรยานที่ดีและมีจักรยานกว่า 400 คันพร้อมดอกยางกันลื่นสำหรับเกาะถนนในฤดูหนาวไว้บริการ
การที่ออสโลเริ่มมีมาตรการที่จริงจังมากขึ้นทุกปีนี้เอง ทำให้ประชาชนเริ่มออกมาขี่จักรยานมากขึ้น โดยสารด้วยรถยนต์น้อยลง และกำลังจะเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เป็นประเทศที่ค่อยเป็น ค่อยไปแต่เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงมากๆ เป็นอีกตัวชี้วัดเลยว่าถ้าภาครัฐมีนโยบายที่ดีและมีการจัดสรรงบประมาณที่ทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังไม่เต็ม 100% ประชาชนก็พร้อมให้ความร่วมมือแน่นอน
• Taipei, Taiwan
อีกหนึ่งประเทศของเอเชียที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับจักรยานมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ไต้หวันเป็นประเทศไม่ใหญ่มาก หลายที่อยู่ใกล้กันไปหมด คนที่เขาเลยนิยมปั่นจักรยานกัน และยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมผลิตจักรยาน จนได้รับขนานนามว่าเป็นอาณาจักรจักรยานเลยทีเดียว
ไต้หวันผลักดันให้คนออกมาขี่จักรยานกันมากขึ้น โดยเริ่มที่เมืองไทเปก่อน ด้วยการเปิดตัวโครงการแบ่งปันจักรยาน (YouBike) โครงการจักรยานเช่าสาธารณะ คล้ายกับโครงการ Bangkok Green Bike ในบ้านเรา ให้คนยืมจักรยานปั่นไปสถานีรถไฟฟ้า หรือไปในที่ที่ไกลเกินกว่าจะเดินได้ ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่นและนักท่องเที่ยว
เป็นโครงการที่น่าสนใจมาก ใครไปไต้หวันคราวหน้าลองยืมจักรยานไปปั่นเล่นกันดูน้า เพื่อนเราที่ไปไต้หวันบางคนก็เคยใช้บริการนี้มาแล้ว ฟีดแบคดีเลยน้า ปั่นง่าย ถนนดี ปลอดภัยหายห่วง : ) ❖