⛰ Trekking Guide — Walking in Nature
สิ้นปีนี้ชวนมาเดินเขา เข้าป่า พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกัน
ไม่มีอะไรจะส่งท้ายปี 2020 ได้ดีกว่าทริปเดินป่า เดินเขา ที่จะพาเราไปรักธรรมชาติของประเทศไทยให้มากขึ้นไปกว่าเดิม ว่าแล้วก็คว้าชุด เตรียมพร็อพ ชวนเพื่อนให้พร้อม แล้วไปตามรอยลิสต์ที่เราแปะไว้ให้ด้านล่างนี้ได้เลย
- ภูสอยดาว, พิษณุโลก – อุตรดิตถ์ : ตั้งแคมป์ในลานสนสามใบและดูทุ่งดอกไม้ในป่าสน
- ม่อนจอง, เชียงใหม่ : เดินป่าขึ้นไปยังภูเขาหญ้าสีทอง
- เชียงดาว, เชียงใหม่ : เข้าป่าเก็บเห็ด
- กิ่วแม่ปาน, เชียงใหม่ : เส้นทางศึกษาธรรมชาติและพันธุ์ไม้นานาชนิด
- ภูแว, น่าน : เดินขึ้นเขาดูทะเลหมอก
- อุทยานแห่งชาติกุยบุรี, ประจวบคีรีขันธ์ : ชวนไปส่องช้างป่าและกระทิง
- ทุ่งนางพญา, เพชรบูรณ์ : นั่งรถ 4WD ไปดูต้นสนสองใบพร้อมดริปกาแฟสุดชิล
ใครจะไปเดินป่า แล้วกำลังแพลนการเดินทางอยู่ล่ะก็แนะนำแอป Traveloka เลย ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะในแอปมีฟีเจอร์สำหรับให้เราค้นหาเที่ยวบิน รถรับส่งสนามบินและบริการรถเช่าด้วย
และสะดวกสุดๆ คือตอนนี้ไม่ต้องหาราคามาเทียบเองให้ยุ่งยากแล้ว เพราะในแอปเขามีฟีเจอร์ Hot Promo ไว้ให้สำหรับเปรียบเทียบราคาและโปรโมชันจากหลายสายการบินไหน อันไหนคุ้มไม่คุ้มเทียบกันจะๆ ไปเลย เหมาะกับคนชอบแพลนการเดินทางอย่างพวกเรามากกก
โหลดแอปติดเครื่องใครไว้ก่อนเลยหนึ่ง!
ส่วนใครสนใจสามารถกดเข้าไปจองตั๋วเครื่องบินได้เลยที่ https://www.traveloka.com/th-th/flight
สิ้นปีนี้มาเดินป่า แคมป์ปิ้งในไทยกันนะ รับรองว่าสวยไม่แพ้ต่างประเทศแน่นอน 🏕 🌳#TravelokaTH #FlywithTraveloka #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย
วิธีการใช้ก็ไม่ยาก แค่เข้าไปตรงค้นหาเที่ยวบิน เลือกจังหวัดที่เราจะไป พร้อมเลือกวันได้ตามปกติเลย และที่สำคัญอย่าลืมกดแถบ Hot Promo ด้านบน เพื่อเปรียบเทียบราคาโปรโมชั่น ว่าสายการบินไหนมีโปรโมชั่นที่ดีที่สุดในตอนนี้ เป็นตัวช่วยสำหรับนักวางแผนการเดินทางได้เป็นอย่างดี
เรียกว่าครบ จบในแอปเดียว ใครเป็นสายโปรโมชันเชื่อว่าต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน 😀
ใครกำลังหาเที่ยวบินไปต่างจังหวัดแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชัน Traveloka ติดโทรศัพท์ไว้เลย สามารถเช็คราคาจากหลายสายการบิน แถมยังมีบริการให้เช่ารถอีกด้วย สะดวกมากๆ
• ภูสอยดาว จ.พิษณุโลก – อุตรดิตถ์
: ตั้งแคมป์ในลานสนสามใบและดูทุ่งดอกไม้ในป่าสน
ภูสอยดาวมีพื้นที่ครอบคลุมจังหวัดพิษณุโลกและอุตรดิตถ์ สูง 2,102 เมตรจากระดับน้ำทะเล เรียกว่าสูงเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทยเลยทีเดียว เป็นอุทยานแห่งชาติที่ยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และยังมีลานสนสามใบให้มากางเต็นท์ แคมป์ปิ้งกัน
การจะเดินขึ้นไปยังภูสอยดาวค่อนข้างยากในระดับนึงเลย ต้องเดินไป – กลับรวม 13 km และต้องพิชิตเนินทั้งหมด 5 เนินด้วยกัน นั่นก็คือเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ ซึ่งตรงเนินมรณะนี่แหละที่ชันสุดๆ กว่าจะไปถึงลานสนได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ระหว่างทางก็มีน้ำตก ลำธารใสๆ ต้นไม้ ดอกไม้ให้ได้เอ็นจอยกับวิวระหว่างทาง ช่วยให้บรรเทาอาการเหนื่อยไปได้บ้าง : )
ถ้าพิชิตทั้ง 5 เนินมาได้แล้วก็จะถึงลานสนสามใบที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินเขาหลายคนที่อยากมาลองสัมผัสบรรยากาศดูสักครั้ง ปกติแล้วคนจะกางเต็นท์กันบริเวณนี้ เหมาะมากกับการตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า พระอาทิตย์ตกตอนเย็น และตอนกลางคืนนอนดูดาวระยิบระยับ ดาวที่นี่เยอะมากก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงชื่อภูสอยดาว
นอกจากสนสามใบแล้ว ถ้ามาช่วงเดือนสิงหาคมจะเจอกับดอกหงอนนาค สีม่วงสดใสที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียว ต้อนรับนักเดินเขาทุกคนด้วยนะ สวยมากกอยากให้มาดูดอกไม้บนภูเขากัน
การเตรียมตัวมาเดินอาจจะต้องฟิตร่างกาย ออกกำลังกายกันมาสักหน่อย และเตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่ามาเลยก็ยิ่งดีเพราะทางค่อนข้างชันเลยล่ะ แต่ถึงแม้จะเดินไกลแต่รับรองได้ว่าพอไปถึงแล้ว คุ้มค่ากับการเดินขึ้นมาจริงๆ นะ 😀
📍ภูสอยดาว
- https://goo.gl/maps/fvmpkn9kCJvLzebf6
- ช่วงเวลาที่ควรไป: สิงหาคม – มกราคม
- รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/phusoidao07
⛰ ม่อนจอง จ.เชียงใหม่
: เดินป่าขึ้นไปยังภูเขาหญ้าสีทอง
ม่อนจองกลับมาเปิดอีกครั้งแล้วน้า หลังจากปิดพักฟื้นไป 😀
ม่อนจองเป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,949 เมตร จากระดับน้ำทะเล สูงเป็นอันดับ 7 ของประเทศไทยเลย แม้จะสูงมากแต่ขอบอกว่าเดินไม่ยาก ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน 3 ชั่วโมงนิดๆ เดินเพลินๆ แป๊ปเดียวก็ถึงแล้ว เป็นดอยที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มเดินเขาเลย
ระหว่างทางก็มีวิวสองข้างทางที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ใบหญ้า ลมเย็นสบาย เดินเรื่อยๆ ก็ถึงจุดไฮไลท์ของดอยม่อนจองที่เรียกว่าหัวสิงห์แล้ว ยิ่งถ้ามาช่วงนี้อากาศน่าจะเย็นสบายกำลังดี กางเต็นท์ ก่อกองไฟ ทำอาหารกินเอง ตอนเย็นมานั่งดูพระอาทิตย์ตก ตื่นเช้ามาสัมผัสอากาศหนาว รอดูพระอาทิตย์ขึ้นก็โรแมนติกมากๆ
แต่ม่อนจองจะไม่สามารถไปได้ทั้งปี เขาเปิดให้เข้าชมได้เฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ปีนี้เปิดตั้งแต่เดือนเดือนพฤศจิกายน – สิ้นเดือนกุมภาพันธ์เท่านั้นนะ ใครจะไปต้องรีบวางแพลน จองล่วงหน้ากันน้า : )
📍ม่อนจอง
- https://goo.gl/maps/VW2iet2yRGCknq41A
- ช่วงเวลาที่ควรไป: พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
- รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/doimonjong.omkoi/
⛰ เชียงดาว จ.เชียงใหม่
: เข้าป่าเก็บเห็ดและเรียนรู้การ Connect กับธรรมชาติ
เชียงดาวของเราไม่ได้พาไปขึ้นดอยหลวงเชียงดาวนะ แต่จะพาหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงไปเข้าป่า เก็บเห็ด และ Connect กับธรรมชาติ 🌳🌿
จะดีแค่ไหนถ้าได้อยู่ในบรรยากาศสงบท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง การเข้าป่าครั้งนี้ไม่ใช่การเดินเข้าไปในป่าเฉยๆ แต่จะเป็นการได้ไปสัมผัสความเป็นป่าและเข้าใจป่าจริงๆ ด้วยการฝึกการใช้ประสาทสัมผัส นั่นก็คือ หู ฝึกการฟังเสียงธรรมชาติ ตา มองดูธรรมชาติให้ละเอียด จมูก เก็บกลิ่นป่าฝึกลิ้น และการเปิดใจ
ส่วนไฮไลท์คือการเดินเข้าป่าเก็บเห็ด เรียนรู้ความงามในระบบป่า 2 แบบ คือป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ เพื่อเรียนรู้ธรรมชาติและระบบนิเวศในป่า เสร็จแล้วก็เอาเห็ดที่เก็บได้มาทำพิซซ่าโฮมเมดกัน เก็บใบไม้มาทำสีและ Essential Oil ที่เรียกได้ว่า Organic แท้จากป่าชุมชนหลังบ้าน
เป็นอีกตัวเลือกสำหรับใครที่อยากลองเข้าป่า ศึกษาธรรมชาติ แบบที่ไม่ต้องเดินขึ้นเขาไกลๆ แต่ยังได้เปิดประสบการณ์เดินป่าเหมือนกัน แถมยังได้เรียนรู้โลกของจุลินทรีย์และเห็ดรา ที่เชื่อมโยงทั้งคน สัตว์ และระบบนิเวศป่า ผ่านการใช้ประสามสัมผัสทั้ง 6 อีกด้วย
📍เชียงดาว
- ใครอยากไปทริปแบบนี้ติดตามได้ในไอจีของพี่มน @monjirawan หรือใน https://www.facebook.com/Mon.Jirawan.Kumsao ได้เลย
⛰ กิ่วแม่ปาน จ.เชียงใหม่
: เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่จะพาทุกคนไปเจอกับพันธุ์ไม้นานาชนิด
กิ่วแม่ปาน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล เหมาะมากใครที่ยังไม่เคยเดินป่า เดินเขามาก่อนเลย แล้วอยากจะลองเริ่มเดิน เราแนะนำว่าให้เริ่มเดินจากกิ่วแม่ปานเป็นที่แรกดูก่อน เพราะว่าเดินง่าย ไม่ยาก และวิวก็สวยยมากเหมือนกัน เพราะเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เดินประมาณ 3 กิโลเมตรเท่านั้น
ส่วนเส้นทางการเดินก็ไม่ยากเพราะส่วนใหญ่จะเป็นทางราบมากกว่า ระหว่างทางจะได้ศึกษาธรรมชาติตลอดทาง ทั้งป่าดิบชื้นที่มีมอร์สและเฟิร์นขึ้นอย่างหนาแน่น ทุ่งหญ้า ต้นกุหลาบพันปีสีแดง และป่าดิบเขาก็ถือว่าครบจบเส้นทางศึกษาธรรมชาติแล้ว
นอกจากการมาดูพันธุ์ไม้ต่างๆ แล้วที่นี่ยังเป็นจุดที่นักเดินทางมักจะแวะมาดูพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย หรือถ้ายังเดินไม่จุใจอยากให้ทุกคนลองแวะไปที่ผาแง่มน้อย ที่มีระเบียงไม้สร้างเรียบไหล่เขา บริเวณนี้สามารถมาเดินชิลๆ พักกินลมชมวิว ดูทะเลหมอกได้ด้วย
ใครที่อยากมาเดินเขากับเพื่อน หรืออยากพาคนในครอบครัวมาเข้าป่าด้วยกันที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลย ไม่ต้องบุกป่า ฝ่าดง มีทางเดินไว้ให้แล้ว แถมสวยเหมือนกัน ครบ จบในที่เดียวเลย : )
📍กิ่วแม่ปาน
- https://goo.gl/maps/acxqYALyBV2kXxRX7
- ช่วงเวลาที่ควรไป: ตุลาคม – มีนาคม
- รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/กิ่วแม่ปาน-181945875479069
⛰ ภูแว จ.น่าน
: เดินขึ้นเขาดูทะเลหมอก
ภูแวเป็นหนึ่งในยอดเขาของดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน ลักษณะส่วนใหญ่จะเป็นทุ่งหญ้าและมีลานหินกระจายอยู่หลายแห่ง แต่การจะเดินถึงยอดก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลย ต้องเดินบุกป่าฝ่าดงข้าวโพดไปประมาณ 4-5 ชั่วโมงกว่าจะถึงยอด และต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทางไปด้วยนะ ใครที่ยังไม่เคยมาเดินเขาควรมาถึงจุดเริ่มเดินตั้งแต่ก่อนเที่ยง เผื่อเวลาไว้สำหรับกำลังขาที่แตกต่างกันของเพื่อนร่วมทริป
การเตรียมตัวมาเดินควรเตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่ามาเลย เพราะบางจุดค่อนข้างชันและลื่นมากก แต่ถ้าเดินเลาะทุ่งข้าวโพดมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับป่าที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวๆ ให้มองแล้วชุ่มชื่นใจ : )
นอกจากนั้นยังมีที่ราบไว้สำหรับให้ชาวแคมป์มากางเต็นท์ ยิ่งช่วงนี้อากาศเย็นๆ เหมาะมากกับนั่งผิงไฟ ก่อกองไฟทำอาหารชิลๆ เป็นที่สุด
📍ภูแว
- https://goo.gl/maps/F6t4ADYE7FmzvnDC9
- ช่วงเวลาที่ควรไป: พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
⛰ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
: ชวนไปส่องช้างป่าและกระทิง
เวลาไปเที่ยวประจวบฯ หลายคนคงนึกถึงหัวหิน ชะอำกันใช่ไหม แต่เราอยากแนะนำให้ขับรถต่อมาอีกหน่อย มาเที่ยวที่กุยบุรีกัน ที่นี่มีธรรมชาติเขียวๆ ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และด้วยความที่เป็นป่าดิบแล้งและดิบชื้นทำให้มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่เยอะนั่นเอง ไฮไลท์ของที่นี่เลยคือการมาส่องสัตว์ป่า ตั้งแต่ช้าง กระทิง วัวแดง จนได้รับฉายาว่า กุยบุรี ซาฟารี เมืองไทย
การจะเข้ามาส่องสัตว์ที่กุยบุรีต้องนั่งรถกระบะเข้ามา จะมีพี่ไกด์ขึ้นรถมากับเราด้วย จะเป็นคนที่คอยอธิบายเกี่ยวกับป่ากุยบุรี และชี้ชวนให้คอยดูบรรดาน้องกระทิงที่ออกมาหาอาหารป่ากินตามพุ่มไม้ด้วย ที่นี่มีจุดชมช้างป่าและกระทิงโดยเฉพาะ ซึ่งช้างป่าและกระทิงจะออกมาหาอาหารกันช่วงเย็นๆ พี่ไกด์บอกว่าถ้าโชคดีอาจเห็นช้างป่าถึง 20 ตัวกันเลย บริเวณนี้สามารถพกเก้าอี้สนามมานั่งดริปกาแฟได้น้า จิบกาแฟไปด้วย ส่องสัตว์ไปด้วย ชิลๆ เลย
นอกจากกิจกรรมส่องสัตว์แล้ว คนยังนิยมมาแคมป์ปิ้ง แล้วเที่ยวน้ำตกในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกด่านมะค่า น้ำตกผาสวรรค์ น้ำตกห้วยดงมะไฟ และมีจุดชมวิวทิวทัศน์สันมะค่า ที่ไม่ควรพลาดเลยเพราะเป็นจุดชมวิวป่ากุยบุรีและทะเลหมอกที่สวยมากๆ
จะเห็นว่ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกุยบุรีแล้วมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายทั้ง ส่องสัตว์ เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แคมป์ปิ้ง เที่ยวน้ำตก ดูทะเลหมอก แนะนำเป็นอย่างยิ่งเลยสำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวใหม่ๆ ในประจวบฯ 😀
📍อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
- https://g.page/kuiburi-national-park?share
- ช่วงเวลาที่ควรไป: เที่ยวได้ทุกช่วง
- รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/kuiburinp.thailand
⛰ ทุ่งนางพญา จ.เพชรบูรณ์
: นั่งรถ 4WD ไปดูต้นสนสองใบพร้อมดริปกาแฟสุดชิล
ทุ่งนางพญาอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยเลย พอมาถึงที่นี่จะเห็นลานกางเต็นท์ขนาดใหญ่ที่ผู้คนเอาเต็นท์มากาง ทำอาหารกินเอง และนั่งกินลม ชมวิวกัน เพราะที่นี่บรรยากาศดีมากๆ มีลมพัดเย็นตลอดวันและมองออกไปเห็นภูเขาเขียว ลูกใหญ่ ลูกเล็กเรียงราย สลับซับซ้อนกันสุดลูกหูลูกตา
ไฮไลท์ของที่นี่อีกอย่างคือทุ่งนางพญานั่นเอง การจะไปยังทุ่งนางพญาจะต้องเช่ารถ 4WD ของทางอุทยานขึ้นไป (เดินไม่ได้น้าเพราะทางชันมากกก) ระหว่างทางก็จะถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ยิ่งขับเข้าไปลึกเท่าไหร่ ตรงหน้าเราก็พีคขึ้นเท่านั้นเพราะเต็มไปด้วยสนสองใบที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ต้นเล็ก ต้นใหญ่ปะปนกันไปเต็มไปหมด
ความพิเศษของสนสองใบของที่นี่ที่ไม่เหมือนกับที่อื่นคือจะมีหญ้าขึ้นแซมอยู่ด้วยนั่นเอง พอมีหญ้าด้วยแล้วก็ยิ่งช่วยให้ดูสวยขึ้นไปอีกจนไม่อยากวางกล้องเลยล่ะ
พอมาถึงปลายทางที่ทุ่งนางพญาก็สามารถเอาโต๊ะเล็กๆ เก้าอี้สนาม มาปิกนิก ชงกาแฟดริปชิลๆ กันได้เลย นอกจากจะถ่ายรูปเก็บไว้แล้ว ก็แนะนำว่าให้ใช้เวลาช้าๆ ดื่มด่ำกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอดกันไปเลย : ) และอย่าลืมว่าถ้ากินเสร็จแล้วเอาของลงมาทิ้งด้วยนะ จะได้มีธรรมชาติสวยๆ อยู่กับเราไปอีกนานๆ
มัดรวม 7 เส้นทางเดินป่า ขึ้นเขามาให้ดูกันแบบง่ายๆ ในคอนเทนต์เดียวแล้ว สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวช่วงสิ้นปีอยู่ล่ะก็ แนะนำมากๆ เลย เพราะการได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้ขึ้นป่า เดินเขาก็เหมือนกับการได้พักผ่อนหลังจากเหนื่อยมาทั้งปี ได้รีเฟรชตัวเองต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ส่วนการเดินทาง ก็ต้องบอกเลยว่าส่วนใหญ่แลนด์ดิ้งลงจากเครื่องแล้วก็จะไม่ได้ถึงจุดเดินในทันที ต้องต่อรถประจำทางหรือขับรถต่อไปอีกหลายชั่วโมง ซึ่งในจุดนี้แอป Traveloka ก็เข้ามาเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เพราะสามารถจองทั้งตั๋วเครื่องบินและเช่ารถไปพร้อมๆ กันได้ง่ายในทุกทริป เรียกได้ว่าจะไปเดินเขาที่ไหนก็ครอบคลุมเรื่องการเดินทาง แถมตอนนี้ยังมีฟีเจอร์ Hot Promo ไว้ให้เปรียบเทียบราคาและโปรโมชั่นจากหลายสายการบินไหนว่าอันไหนคุ้มที่สุดด้วยนะ แนะนำให้มีแอป Traveloka ติดเครื่องไว้เลย สะดวกสบายเหมาะกับสายเดินทางอย่างเรามากๆ
ช่วงนี้เที่ยวต่างประเทศไม่ได้ ก็อยากให้ทุกคนหันมาเที่ยวไทยกันเยอะๆ เพราะแต่ละที่ก็สวยไม่แพ้ต่างประเทศเลยนะ ออกมาเที่ยวเมืองไทยกัน จะได้ช่วยให้การท่องเที่ยวเรากลับมาคึกคักอีกครั้ง : ) ❖
#TravelokaTH #FlywithTraveloka #Travelokaเทียบแล้วเที่ยวเลย