ไปปีนเขาที่คินาบาลูกัน!
คินาบาลู มีพิกัดอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย นอกจากจะเป็นภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าโคตรสวยที่สุดแห่งนึงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องความเดินทางยาก แถมจองยากจนทำให้ทริปล่มไปอยู่หลายต่อหลายครั้ง
แต่ในที่สุดก็เหมือนสวรรค์มาโปรด เพราะแอร์เอเชียเค้าเปิดรูทบินตรงไปโคตาคินาบาลูแล้วววว คือดีใจมากกก เพราะเล็งอยู่นาน ทำใจเสียค่าตั๋ว ไปต่อเครื่องที่กัวลาไม่ไหวจริงๆ เปิดรูทปุ๊บก็ชวนเพื่อนไปเดินทันที โดยแทบไม่เตรียมตัวอะไร หารู้ไม่ว่ามัน
.
ไม่ง่าย!
.
ขอชวนเชิญนักเดินทางสายภูเขามาโดนป้ายยา ตามมาอ่านรายละเอียดกันแบบเต็มๆ ในรูปต่อๆ ไปได้เลย
Check List ก่อนไป
- ไฟฉายคาดหัว: ต้องเริ่ม Trek ตั้งแต่ตี 2 ไม่มีไม่ได้ มันมืดมาก
- กระติกน้ำ หรือ Water Bladder: กว่าจะขึ้นไปถึงด้านบนได้ ต้องผ่านสภาพอากาศร้อนชื้นหลายกิโลเมตร เพราะฉะนั้นน้ำสำคัญมากๆ จะพกกระติกหรือถุงน้ำแบบที่ดูดจากสายยางได้เลยก็สะดวกดี เดี๋ยวแปะรูปไว้ให้ดูในคอมเมนต์น้า
- Energy Bar: เผื่อหิวระหว่างทาง ไม่มีร้านขายของนะจ๊ะ
- กระเป๋าเป้แบบ Day Pack: พกไซส์ที่เหมาะกับตัวเองไป แบกเฉพาะของสำคัญ อย่าเอาไปเยอะเพราะจะหนัก (ยกเว้นว่าใครจะจ้างลูกหาบ) กระเป๋าดีๆ จะช่วยซัพพอร์ตหลังของเราได้เป็นอย่างมาก
- ถุงมือ: จะถุงมือฟิตเนสหรือถุงมือกันหนาวก็แล้วแต่ชอบเลย หลักๆ คือเอาไปจับเชือกแบบในรูปนี่ล่ะ
- กางเกง Trek: เอาแบบระบายอากาศได้ดี เคลื่อนไหวเยอะๆ ยืดๆ ได้
- Trekking Pole: เราไม่ได้เอาไป แล้วก็ค้นพบว่า เข่าพังจ้า555 ช่วยได้เยอะมากจริงๆ แนะนำอย่าขี้เกียจแบกแบบเรา
- Trekking Shoes: ทางค่อนข้าง advance หารองเท้าสำหรับเดินเขาโดยเฉพาะเลยจะช่วยได้มาก
- เสื้อกันฝน: เอาเป็นแบบที่หยิบง่าย เก็บง่าย น้ำหนักเบา ไม่กินที่ จะดีที่สุด อากาศบนภูเขาเอาแน่เอานอนไม่ได้ เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก
- อุปกรณ์กันแดด: ครีมกันแดด, หมวกปีกกว้าง
- อุปกรณ์กันหนาว: เดินตรงตีนเขาน่ะร้อน แต่พอขึ้นไปข้างบนน่ะหนาวเลยยย หนาวปากสั่น มือสั่น อากาศน้อยอีกต่างหาก เสื้อกันหนาว หมวกไหมพรม พกไปให้พร้อม ใครขี้หนาวอย่าลืมซื้อ hot pad ไปด้วย
- **ยาป้องกัน Altitude Sickness: กินป้องกันไปเลยย เมื่อขึ้นไปที่ความสูงมากกว่า 2,500m
- อื่นๆ: เช่นทิชชู่เปียก, ผ้าเช็ดตัวผืนเล็ก, อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ หาซื้อได้เกือบทุกอย่างที่ Decathlon ช่วยชีวิตมาหลายทริปแล้ว มีครบ ราคาน่ารักและพี่พนักงานแนะนำดี (ไม่มีสปอนน้า ซื้อเองเจ็บเองจ้า)
Good to Know Before Going
•Location: Kinabalu National Park, Sabah, Malaysia
• Getting There
Booking via Mount Kinabalu official website
.
**จองปีนเขาให้ได้ก่อนจองตั๋วเครื่องบิน แต่ก่อนจองปีนเขาให้ดูวันเดินทางเทียบกับเที่ยวบินด้วย เพราะบินตรงไม่ได้มีทุกวัน**
.
คินาบาลูขึ้นชื่อในเรื่องการจองยาก มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีดวงที่แข็งแรงพอๆ กับขาด้วย เดี๋ยวนี้ดีหน่อยเราสามารถเช็ค slot ในการปีนคร่าวๆ ได้ออนไลน์ผ่านทาง https://book.mountkinabalu.com/ เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความชัวร์เราแนะนำว่าให้ส่งอีเมลล์ไปคอนเฟิร์มกับเค้าด้วยทุกครั้งว่าจะไปกี่คน สนใจแพ็คเกจไหน ไปวันที่เท่าไหร่ ตอบเมลล์เร็วมากไม่ต้องกังวล เค้าจะบอกเลยว่ามีแพ็กเกจไหนบ้างที่ว่าง ราคารวมที่ต้องจ่าย บลาๆ
.
จอง slot ปีนเขาได้แล้ว ค่อยมาจองตั๋วเครื่องบินต่อ เดี๋ยวนี้ AirAsia เค้ามีบินตรงแล้ว ดีใจมากๆ เที่ยวบินละประมาณ 4-5 พันบาท แต่อย่างที่บอกว่าไม่ได้มีบินตรงทุกวัน เอาตามเราไปเลยก็คือไปวันเสาร์ กลับวันอังคาร (4วัน 3คืน)
• Trail
17.4km Round trip
DAY 1: Timpohon Gate-Panalaban(ที่พัก): 4-5h (6km)
DAY 2: Panalaban(ที่พัก)-Low’s Peak Summit: 3h(2.7km)
Low’s Peak Summit-Panalaban(ที่พัก): 3h(2.7km)
Panalaban(ที่พัก)-Timpohon Gate: 3-4h (6km)
สำหรับเรา เราเลือกที่จะไม่ใช้ลูกหาบ เพราะฉะนั้นของใช้ที่ไม่จำเป็น กระเป๋าใบใหญ่ต่างๆ เราจะฝากไว้ที่ Kinabalu Park Headquarters แบกกระเป๋า Day Pack ขึ้นไปเฉพาะของสำคัญจริงๆ เช่นพวกไฟฉาย เสื้อกันหนาว เสื้อกันฝน ฯลฯ พร้อมสำหรับการเดิน 2 วัน 1 คืน อ้อ อย่าลืมเผื่อน้ำหนักที่จะต้องแบกน้ำขึ้นไปด้วยนะ จากประสบการณ์ส่วนตัวคือกินน้ำขาละ 1 ลิตร water station มีอยู่เรื่อยๆ ตามจุดพัก แต่ไกด์ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่
• Difficulty
4.5/5
ไม่เหมาะสำหรับคนเพิ่งหัดเดินเขา ไม่ควรเลือกที่นี่เป็นที่แรกถ้าแค่อยากลองพิชิต5555
• Cost (เฉพาะค่าปีนเขา)
15,000 THB – 22,000 THB
Depends on package and pax
*March 2019 price
.
การไปปีนเขาที่คินาบาลูมีหลายแพ็คเกจมาก เข้าไปในเว็บครั้งแรกอย่าเพิ่งตกใจ มันจะงงๆ นิดนึง แต่แพ็คพื้นฐานสุดที่ทุกคนไปกันจะเป็น 2D1N (2 days 1 nights) ถามว่าเร็วกว่านี้ได้มั้ย เราคิดว่าไม่ได้ เพราะทางอุทยานเค้าจะมีการเปิดปิด เช็คชื่ออยู่เป็นระยะๆ ให้เป็นระบบระเบียบเหมือนกันหมด แต่ถึงเค้าจะไม่กำหนดเวลา แกกะจะเดินรวดเดียวไปกลับ 17 โล 10 ชม.กว่าภายในวันเดียวเลยหรอ เราว่าไม่ปลอดภัย555
ราคาต่างกันยังไง
ยิ่งไปเป็นกรุ๊ปหลายคน ราคายิ่งถูกลง ที่พักดีหน่อยราคาก็แพงขึ้นตามสภาพ บอกก่อนว่าตอนไปเราจ่ายแบบแพงสุด คือแพค 3D2N เพราะช่วงเวลาที่ทุกคนว่าง มี slot เหลือแค่แพคเกจแบบเดียว คนปกติที่เลือก 2D1N คือแลนด์ปุ้บไปหาโรงแรมพักเอง ตอนเช้าเหมารถเข้ามาอุทยานเพื่อเริ่มเดินจาก Timpohon Gate
.
ส่วน 3D2N อุทยานจะส่งรถมารับตั้งแต่ตอนแลนด์ พาไปแวะเที่ยวนิดๆ หน่อยๆ ตามรายทาง ก่อนจะพาเข้าที่พักในตัวอุทยานเลย ตอนเช้าก็ตื่นมาเริ่มเดิน Trek พร้อมๆ กับคนที่จองแพ็คอื่น แตกต่างกันตรงที่ที่พักจะใกล้ Timpohon Gate มาก แถมบ้านในอุทยานดีสุดๆๆๆๆๆๆ ดีแบบลืมภาพจำของทุกอุทยานในไทยที่เคยไปมาเลย เรียกว่าบ้านพักตากอากาศดีกว่า หรูหราเกินเรื่องไปมากจริงๆ (แน่นอนว่าราคานี้รวมอาหารเย็นด้วยแล้ว)
.
ส่วนที่พักตรง Panalaban เราก็จะได้พักหลังที่ดีที่สุด คือเป็นห้อง private เตียง 2 ชั้น 3 เตียง มี heater และห้องน้ำในตัว ซึ่งก็ถือว่าดีมากๆ เพราะไม่ต้องไปแย่งกันใช้ห้องน้ำรวมกับนักปีนเขาคนอื่นตอนตี 2 ก่อนออกไป Morning Trek
.
เทียบกันแล้ว แพค 2D1N ก็ถูกกว่าเห็นๆ แหละ (อย่าลืมบวกค่าโรงแรมคืนแรก กับค่ารถไปอุทยานตอนจุดเริ่มด้วยนะ) แต่ถ้าเทียบความสบายกับบริการที่ได้รับก็ถือว่าโอเคสุดๆ
• Opening
All year long except for the bad weather
สามารถไปเดินได้ตลอดปี แต่ถ้าเดินขึ้นไปถึงตรง Rest House วันแรกแล้วหมอกจัด ดูท่าทางไม่ปลอดภัย เค้าก็ไม่ให้ขึ้น Low’s Peak น้า
ราคาค่าใช้จ่าย
ใช่จ่ะ ราคานี้บินไปกลับญี่ปุ่นได้เลย แต่เราเลือกไปลำบากกันที่โคตาคินาบาลู555555 ราคาตั๋วบินตรงจาก AirAsia น่ารักมาก 4-5พันบาทเอง เจ็บสุดก็แพ็คเกจปีนเขาราคา 2 หมื่นกว่าบาทนี่ล่ะ แต่ก็อย่างที่บอกว่าที่พักอะไรดีงามตามราคาอะแก และรวมอาหารสามมื้อแล้วเรียบร้อย ใครใคร่ไปถูกกว่านี้ ยังไงเล็งวันและเวลาให้ดี เพราะบางทีมันก็จะมีโปรแพ็คแบบถูกๆ งอกออกมา (แน่นอนว่ามันก็จะไม่ค่อยตรงกับวันหยุด) หรือจะไป Uncle Jack Backpacker ก็ได้ แต่เราแนะนำไม่ได้เพราะเราคุยกับลุงไม่รู้เรื่อง เลยเลือกแบบปกตินี่ล่ะ555
.
ลงมาจากอุทยานแล้ว เรามีวันว่างเหลือ 1 วันในเมือง Kinabalu ด้วย เลยจะมีค่าโรงแรมกับอาหารเพิ่มมาในส่วนนี้ด้วยน้า
เอาเป็นว่าใครอยากคุม Budget ให้น้อยลงมาหน่อย เอาของเราเป็นเพดานได้เลย ไม่น่าเกินแล้วล่ะ
แผนที่การเดิน
ทำแผนที่การเดินมาให้ดูอีกรอบแบบง่ายๆ
ที่พักแพ็ค 3D2N จะอยู่ตรง Kinabalu Headquarter เลยนะ
.
DAY 1: Timpohon Gate-Panalaban(ที่พัก): 4-5 ชม. (6km)
DAY 2: Panalaban(ที่พัก)-Low’s Peak Summit: 3 ชม. (2.7km)
Low’s Peak Summit-Panalaban(ที่พัก): 3 ชม. (2.7km)
Panalaban(ที่พัก)-Timpohon Gate: 3-4 ชม. (6km)
พูดง่ายๆ ก็คือวันที่ 2 เดินลงรวดเดียวเลยจากยอดลงมาที่จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้นที่ Timpohon Gate มาแล้วต้องเช็คชื่อก่อน หลังจากนั้นเราจะได้มาห้อยคอเป็นเลขประจำตัว เอาไว้ให้เค้าคอย track ว่ามาครบจุด check point ในเวลาที่กำหนดมั้ย ตกเขาไปแล้วหรือยังงง
เดินดิ่งขึ้นด้านบนรัวๆ เดินช้าบ้าง เพราะพักถ่ายรูปเป็นระยะ
จะมีป้ายบอกกิโลเมตรเป็นระยะๆ ว่าเราถึงกิโลเมตรที่เท่าไหร่แล้ว จุดหมายในการเดินวันแรกของเราอยู่ที่ 6km
.
อาหารกลางวันทางอุทยานเค้าจะแพ็คมาเป็นเซ็ตให้เลย หลักๆ ก็เป็นอกไก่และบร็อคโคลี่ที่อร่อยมาก ประทับใจอีกอย่างก็คือแทบไม่มีพลาสติกเหลือเป็น waste ในแพ็คอาหารเลย เซ็ตอาหารจะมาในรูปกล่องกระดาษและช้อนส้อมไม้บางๆ ห่อมาในถุงกระดาษอีกที
.
ส่วน Shelter มีให้พักเรื่อยๆ ทุก 1 กิโลบ้าง 500 เมตรบ้าง สามารถเติมน้ำหรือเข้าห้องน้ำได้ตามศาลาต่างๆ นี่ล่ะ
โอเค ในอัลบั้มรูปข้ามไปหลาย step เหมือนกัน
เราต้องรีบเข้านอนเพื่อตื่นมาเดิน morning trek ตอนตี 2 ซึ่งมันจะมืดมาก มองไม่เห็นอะไรเลย และต้องไต่เชือก 45 องศา ขึ้นไปภูเขาหินด้านบนให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น แนะนำให้ดูจาก VDO จะเห็นชัดกว่า
แสงจากพระอาทิตย์เริ่มส่องมา หลังจากเดินท่ามกลางความมืดมาเกือบ 3 กิโลเมตร ในที่สุดเราก็เริ่มมองเห็นวิวภูเขาที่อยู่รอบตัวตอนนี้แล้ว ยอดเขาด้านบนก็คือสุดลูกหูลูกตามาก ไต่เชือกกันมันส์ไปเลย
จบแล้วววว
ไม่มีรูปขาลงให้ดู เพราะไปกลับทางเดียวกัน รูปค่อนข้างจะซ้ำกับขาขึ้นเลย
.
ทั้งหมดทั้งปวง ถ้าถามเราว่าคุ้มมั้ย ก็คิดว่าอาจจะไม่คุ้มสำหรับหลายๆ คนนะ แต่สำหรับเรามันคือการได้มาเอาชนะตัวเอง มาอยู่กับตัวเองในทุกๆ ก้าวก็เดินต้านความสูงขึ้นไป เป็นประสบการณ์ที่ส่วนตัวมากๆ อยากให้ได้มาลองสัมผัสกับใจของตัวเองสักครั้ง 🙂
.
แต่ๆๆ ความมุ่งมั่นอยากพิชิตอย่างเดียวไม่เพียงพอเด้อสำหรับทริปนี้ ได้โปรดเตรียมพร้อมและเตรียมตัวให้ดีก่อนเลือกมาเดินที่นี่ดีกว่า ออกกำลังกายซักนิด ฟิตซักหน่อย รับรองว่า 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน