EP3 Jaipur
อินเดียอีพีสุดท้ายมาแล้วววววววว
อินเดียสีชมพู สีฟ้า สีเหลือง และทุกๆ สี มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว 🕌
ถ้าใครอยากมาชมความอลังการของสถาปัตยกรรมและเรื่องราวประวัติศาสตร์ของอินเดียเมืองจัยปูร์ ในรัฐราชาสถานต้องติดโผเป็นเมืองแรกๆ แน่นอน
จาก Agra ใน EP2 (http://bit.ly/Album-India-Agra-EP2) เรานั่งรถกันประมาณ 4 ชั่วโมงก็มาถึง Jaipur ในช่วงเย็นๆ
สำหรับวันแรกเราเที่ยวจากสถานที่ที่กระจุกตรงกลางกันก่อน เริ่มจาก
– Hawa Mahal
– City Palace
– แวะกินข้าวเที่ยงที่ Caffé Palladio (นั่งรถมาประมาณ 15 นาที)
– Albert Hall Museum
– จิบชายามบ่ายที่ Raj Mahal Palace
พอตกเย็นก็ตรงดิ่งเข้าโรงแรม Hilton Jaipur
วันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของทริป เราตรงดิ่งจากโรงแรมไปซุ้มประตู Jawahal Circle ก่อนเลย แล้วถึงนั่งรถย้อนขึ้นไปกระจุกด้านบน ประมาณ 45 นาที เพื่อไป Amber Fort และ Panna Meena ka Kund Stepwell และทริปจะจบโดยสมบูรณ์แบบไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ช็อปปิ้ง! เราแวะซื้อของฝากที่ Bapu Bazaar เป็นที่สุดท้าย ก็เป็นอันจบครบถ้วนสำหรับเมืองจัยปูร์
.
ส่วนการเดินทางเราเน้นสบาย เช่ารถพร้อมคนขับที่จะพาเราไปเที่ยวทุกที่ สบาย หายห่วง ไม่ต้องกลัวหลง ส่วนราคาก็ถือว่าไม่แรงอย่างที่คิด 5 วัน 5 คน รวมทั้งหมด 16,000 บาท ใครไปอินเดียแล้วกลัวจะเดินทางยากเราแนะนำวิธีนี้เลยย
Hawa Mahal
Palace of winds
Opening: 9.00 – 17.00
Ticket: 50 Rupees
Hawa Mahal เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Jaipur ไปแล้ว พระราชวังแห่งสายลมแห่งนี้ สร้างขึ้นเมื่อปี 1799 มีลักษณะเป็นอาคาร 5 ชั้น สร้างด้วยหินทรายสีชมพูและสีแดง
ที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นลวดลายฉลุหินตามหน้าต่างๆ ซึ่งมีมากถึง 953 บาน ที่ต้องมีเยอะขนาดนี้ ก็เพราะว่าเมื่อก่อนมหาราชาเค้าสร้างกับเหล่าสนมเอกไว้สำหรับเป็นที่แอบดูชีวิตความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไป
นอกจากลวดลายบนหน้าต่างแล้ว ข้างบนยังเป็นห้องขนาดใหญ่ที่เอาไว้ให้ยืนชมวิวสวยๆ ประหนึ่งว่าเราเองเป็นสตรีในวังยังไงอย่างนั้นเลย และประโยชน์อีกอย่างของหน้าต่างคือใช้เป็นทางผ่านของลมซึ่งจะช่วยให้ห้องเย็นสบายแม้ในวันที่ร้อนอบอ้าวมากๆ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อพระราชวังแห่งสายลมนั่นเอง
ถ้าอยากได้รูปคู่กับพระราชวังสายลมแบบเต็มๆ แนะนำให้ข้ามถนนมาที่ร้าน Tattoos Cafe เพราะที่นี่มีชั้นดาดฟ้าให้นั่งจิบชาพร้อมพระราชวังสายลมเป็น Background ส่วนเวลาที่เหมาะกับการมาที่นี่เราแนะนำให้มาตอนเช้าๆ หรือช่วงเย็นก็จะเห็นแสงอาทิตย์กระทบกับตัวหน้าต่างจนออกมาเป็นสีชมพูปนแดงๆ ที่ดูแล้วสบายตา สบายใจสุดๆ
City Palace
Major landmark in Jaipur
Home for Royal Families of Rajasthan
Opening: 9.30 – 17.00 น.
Ticket: 500 Rupees แต่ถ้าอยากเข้าชมแบบ Exclusive มีไกด์ให้ ต้องจ่าย 2,500 Rupees หรือถ้าใครมีบัตรนักเรียนที่ยังไม่หมดอายุใช้ลดได้ 50%
เดินมาจาก Hawa Mahal อีกนิดเดียวก็จะเจอกับประตูทางเข้า “City Palace” หรือ “พระราชวังแห่งเมืองชัยปุระ”
พระราชวังแห่งนี้มีชื่อเสียงเรื่องงานจิตรกรรมฝาผนังที่สวยมากกก ทุกอย่างเต็มไปด้วยรายละเอียด ตั้งแต่กระจกแกะสลัก เสา กำแพง ภาพวาดกระเบื้อง และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของมหาราชาและเหล่าราชวงศ์
สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยมหาราชาสวาอี ชัยสิงห์ ออกแบบมาเพื่อเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อน โดยมีสไตล์การออกแบบโดดเด่นที่ผสมผสานทั้งสถาปัตยกรรมราชบุตรฮินดูและโมกุลอิสลามไว้ด้วยกัน
ข้างนอกว่าถ่ายรูปสวยแล้วแต่ด้านในยังมี Chandra Mahal ที่สวยพีคสุดๆ จุดไฮไลท์คือห้องสีน้ำเงินที่มีลวดลายศิลปะสวยงามและห้องนอนของมหาราชาที่ตกแต่งด้วยกระจกแก้วอีกด้วย
เข้ามาที่นี่นอกจากจะได้รูปสวยๆ ไปจนล้นกล้องแล้วยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่ถึงแม้ตอนนี้ราชวงศ์อินเดียจะไม่ได้มีอำนาจด้านการเมืองแล้ว แต่พวกเขาก็ได้สร้างสถาปัตยกรรมสุดยิ่งใหญ่ วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมต่างๆ ที่มีคุณค่าไว้มากมายเลย
Caffé Palladio
Classical Indian Restaurant,
Best Try for Italian and Arabian Cuisine
หลายคนพอมาอินเดียอาจจะห่วงเรื่องอาหารจะกินยากไหม สกปรกหรือเปล่า
กินแล้วจะกลัวท้องเสียไหมเลยอยากแนะนำคาเฟ่สีเหลืองน่ารักแห่งนี้ให้ทุกคนรู้จัก
มาจัยปูร์แล้วต้องลองมากินอาหารร้านนี้!
คาเฟ่ Palladio คือคาเฟ่สไตล์ลูกครึ่งที่ผสมความเป็นตะวันออกของอินเดียกับตะวันตกของอิตาลีไว้ด้วยกัน ด้วยการตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะยุคเรอเนซองซ์ผนวกเข้ากับกลิ่นอายแถบชนบทของอิตาลี และการเลือกใช้สีที่ใช้สีเหลืองสดใส
ที่ดูแล้วหรูหราแต่ก็ยังคงความเป็นกันเองอยู่
การตกแต่งภายในก็น่ารักมากๆ โดยผนังจะเพนต์ภาพธรรมชาติด้วยสีโทนพาสเทล และเพดานโค้งเพิ่มมิติด้วยลายเส้แบบพริ้วไหว ประกอบกับหน้าต่างโค้งมนให้ความรู้สึกแบบอินเดียๆ ที่นี่จะเน้นเสิร์ฟอาหารอิตาเลี่ยนเป็นหลักนะ แวะมากินกันได้ อาหารเค้าอร่อยใช้ได้เลยยย
Albert Hall Museum
The Oldest Museum of Rajasthan
Opening: ทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. / 19.00 -22.00 น.
Ticket: 300 Rupees
Albert Hall Museum ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐ และเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำรัฐราชสถาน ชื่อฝรั่งแต่อยู่ในอินเดียนี้มีที่มาจากการเสด็จประพาสของ King Edward VII (Albert Edward) นั่นเอง
ในอดีตที่นี่เป็นที่ทำการบริหารส่วนต่างๆของเมือง และภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนภายหลังมาเป็น Art Museum ที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ของชนกลุ่มน้อย ห้องสมุด ภาพวาดและศิลปะที่ประณีต สวยงาม
จุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้เลยคือตรงด้านหน้าของพิพิธภัณฑ์ที่เราจะเห็นความยิ่งใหญ่อลังการแบบเต็มๆ และถ้าโชคดีจะมีฝูงนกพิราบบินอยู่เหนือป้อมด้วย ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากๆ
Raj Mahal Palace
One of The Finest Heritage Hotels in Jaipur, owned by Royal Family.
Raj Mahal Palace สร้างขึ้นเมื่อประมาณปีค.ศ. 1720 เมื่อก่อนเคยเป็นพระราชวังเก่าของมหาราชามาหลายศตวรรษ แต่เมื่อปี 2015 เพิ่งเปลี่ยนมาทำเป็นโรงแรมเลยเรียกได้ว่าเป็นโรงแรมที่เก่าและแพงที่สุดในจัยปูร์เลย
มีกิมมิคตั้งแต่วอลล์เปเปอร์โทนพาสเทล และการตกแต่งที่สวยงามแล้วเหมือนกำลังหลุดเข้ามาในหนังของเวส แอนเดอร์สันเลย ถ่ายรูปสวยมากกกก
ส่วนใครไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะมานั่งทานอาหารอิตาเลี่ยนได้ แถมเค้ายังมีเซ็ท Afternoon Tea ให้แวะมาจิบชายามบ่ายได้เหมือนกันนะ ขอบอกว่าราคาก็ไม่ได้แรงอย่างที่คิดและพนักงานก็บริการดีมากๆ ด้วย ถ้าใครมีงบเราแนะนำให้มาพักที่นี่เลยยย
Jawahal Circle
A Beautiful Circular Park in The Center of a Busy Traffic Signal in Jaipur
Opening: 05.00 – 22.00 น.
Ticket: Free
ที่เห็นผนังสีสันสดใสและลวดลายงดงามสุดๆ ที่นี่คือประตูปาตริกา (Patrika Gate) ตั้งอยู่ในบริเวณของวงเวียนจาวาฮาร์(Jawahar Circle)
เอาจริงๆ มันก็คือซุ้มวงเวียนรถนั่นแหละ! แต่เป็นซุ้มที่สวยมากกก ถ่ายรูปขึ้นสุดๆ แถมในแต่ละซุ้มยังมีเขียนถึงประวัติศาสตร์ของแคว้นราชาสถานด้วยนะ
เราแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ เพราะแสงจากพระอาทิตย์จะทำมุมพอดีกับซุ้มประตู เหมาะกับมาถ่ายรูปมากๆ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงนะ!
Amer Fort
Old fort of the old capital city before Jaipur
Opening: ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.30 น./18.30 – 21.15 น.
Ticket: 500 Rupees
คนท้องถิ่นมักจะเรียกว่า “ป้อมอาเมร์” แต่เดิมเคยเป็นเมืองหลวงของจัยปูร์ก่อนจะเปลี่ยนเมืองหลวงไปที่ City Palace นอกจากความสวยงามของป้อมปราการที่นี่แล้ว ภายในยังมี “พระราชวังอาเมร์” ซึ่งอดีตเป็นที่ประทับของเหล่าราชวงศ์มหาราชาในสมัยนั้นด้วย
ที่นี่เป็นสถาปัตยกรรมแบบฮินดูผสมราชปุต ทำให้ป้อมแห่งนี้สวยพีคค เต็มไปด้วยความประณีตและวิจิตรงดงามมากก รวมถึงยังใหญ่โต อลังการงานสร้างสุดๆ สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เพราะมีแนวกำแพงที่ใหญ่และแน่นหนา คล้ายกำแพงเมืองจีน (แต่ขนาดเล็กกว่า)
เป็นอีกสถานที่ที่ฮิตมากๆ ในราชาสถานเลย แต่ด้วยความที่อยู่บนภูเขาเดินขึ้นมาอาจจะเหนื่อยๆ หน่อยแต่อยากบอกว่าคุ้มค่ามากกกก
Panna Meena ka Kund
Jaipur Historic Stepwell
Opening: ทุกวัน เวลา 7.00 – 18.00 น.
Ticket: Free
ใกล้ๆ Amber Fort มี Panna Meena ka Kund เป็นเหมือนบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีบันไดลงไปเป็นขั้นๆ (Step well) สร้างไว้เพื่อเก็บน้ำในช่วงหน้าฝน เพื่อจะได้นำมาใช้ได้ในช่วงหน้าแล้งของเมือง Rajasthan และสร้างไว้ให้ประชาชนเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาดและสามารถเอาไว้อาบได้ด้วย
ที่นี่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 ออกแบบเป็นขั้นบันไดแนวทแยงทั้งหมด 8 ชั้น และผนังทั้งสามด้านเป็นบันไดทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินลงไปที่บ่อน้ำได้พร้อมๆ กันนั่นเอง
เมื่อก่อนสามารถเดินลงไปได้ แต่ตอนนี้ลงไปไม่ได้แล้วนะ ใครไปเที่ยว แนะนำให้เก็บรูปสวยๆ พอน้า อย่าฝ่าฝืนกฎของเค้าเลย Panna Meena ka Kund จะหน้าตาคล้ายๆ กับ Chand Baori บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังอีกแห่ง แต่คนละที่กันนะ
Jal Mahal
A Palace in The Middle of the Man Sagar Lake
Opening: 24 ชั่วโมง
Ticket: Free
เป็นอีกหนึ่งพระราชวังที่สวยมากๆ ที่ไม่ควรพลาดเลย ความโดดเด่นของที่นี่คือตั้งอยู่กลางทะเลสาบ Man Sagar Lake คนท้องถิ่นเลยเรียกกันว่า The Water Palace นั่นเอง
พระราชวังแห่งนี้สร้างสร้างขึ้นตามแบบของสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุล ตัวอาคารใช้หินทรายโทนสีเปลือกไข่ในการก่อสร้าง ซึ่งจริงๆ แล้ววังนี้มีความสูง 5 ชั้นแต่ถ้าทะเลสาบน้ำขึ้นสูงสุด อีก 4 ชั้นจะจมอยู่ด้านล่าง โดยในอดีต การเดินทางไปที่วังนี้ต้องใช้ทางเรือเท่านั้น
ปัจจุบันไม่ได้เปิดให้เข้าชมด้านในแล้ว แต่นักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูปได้จากจุดชมวิวนะ
Bapu Bazaar
An Ultimate Market for Shopping in Jaipur
Opening: ทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
เรามาปิดทริปจัยปูร์กันที่ตลาด Bapu Bazaar ใครอยากหาซื้อเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องเทศ จนถึงของสดก็สามารถมาที่นี่ได้เลย ตั้งแต่ร้านขายของชำตามซอกหลืบต่างๆ ไปจนถึงคนใส่ชุดสาหรี่เดินช็อปปิงผ้าอินเดีย จะได้เห็นบรรยากาศความวุ่นวายแบบอินเดียๆ ที่แท้จริงงง และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตคนอินเดียแบบใกล้ชิดเลย
คนอินเดียเค้าขายของกันเก่งมากกก ส่วนเราเองก็ฝึกสกิลการต่อราคาไม่หยุด ใครอยากได้ราคาถูกลงต้องขยันต่อนะ
1 comment